Search for content in this blog.

2554-07-20

การประกันชีวิตคืออะไร

การประกันชีวิตคืออะไร


การประกันชีวิต คือการชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจากการตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพ โดยบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต
ผู้เอาประกันภัย คือบุคคลที่ตกลงทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันชีวิตโดยอาศัยสาเหตุของการมีชีวิตหรือการตายเป็นเงื่อนไขในการจ่ายเงินประกันชีวิต
ผู้รับผลประโยชน์ คือ บุคคลที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตว่าจะเป็นผู้ได้รับเงินประกันชีวิตตาม เงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา ผู้รับผลประโยชน์อาจเป็นบุคคลเดียวกับผู้เอาประกันภัยก็ได้


ทำไมจึงต้องมีการประกันชีวิต


ผู้เอาประกันชีวิตต้องการได้รับประโยชน์ในด้านความคุ้มครอง คือเมื่อมีภัยเกิดขึ้นแก่ชีวิตทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องสูญเสียรายได้เนื่อง จากการตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือชราภาพ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้ตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์แล้วแต่กรณี


เพื่อการออมทรัพย์ หากผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อการประกันชีวิตแบบที่มีการออมทรัพย์รวมอยู่ด้วย ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินก้อนหนึ่งตามที่ตกลงไว้เมื่อมีชีวิตอยู่ ณ วันที่สัญญาครบกำหนด ทั้งนี้บริษทประกันชีวิตจัดเป็นสถาบันการเงินเช่นเดียวกับธนาคารและบริษัท เงินทุน


การประกันชีวิตให้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ บริษัทประกันชีวิตจะนำเอาเงินส่วนที่เป็นเงินออมของผู้เอาประกันภัยไปลงทุน ในหลักทรัพย์ต่าง ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรขององค์การหรือรัฐวิสาหกิจ หรือตั๋วเงินคลังของกระทรวงการคลัง หรือนำไปลงทุนซื้อหุ้นหรือหุ้นกู้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้รัฐบาลสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า สนามบิน ถนนหนทาง รถไฟฟ้าและอื่นๆ อันเป็นการลดภาระของรัฐบาลที่จะต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ


การประกันชีวิตแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท


ประเภทสามัญ (Ordinary Life Insurance) คือการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางหรือสูง โดยทั่วไปกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี รายหกเดือน หรือรายสามเดือน การพิจารณารับประกันชีวิตมีทั้งแบบตรวจสุขภาพและไม่ต้องตรวจสุขภาพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกันภัยและอายุเป็นสำคัญ
ประเภทอุตสาหกรรม (Industrial Life Insurance) คือการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างต่ำ จึงไม่มีการตรวจสุขภาพ การพิจารณารับประกันชีวิตอาศัยข้อมูลจากคำแถลงในใบคำขอเอาประกันภัย โดยทั่วไปกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือนอาจมีเงื่อนไขกำหนดระยะเวลารอ คอยก็ได้ ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) คือระยะเวลาที่กำหนดไว้เพื่อพิสูจน์สุขภาพของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทประกันชีวิตไม่ต้องจ่ายเงินเอาประกันภัย โดยทั่วไปกำหนดไว้ 180 วัน
ประเภทกลุ่ม (Group Life Insurance) คือการรับประกันชีวิตบุคคลหลายคนภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดียว โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงภัยของบุคคลในกลุ่มทั้งหมดด้วยอัตราเฉลี่ย ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ หน้าที่การงาน หรือจำนวนเงินเอาประกันภัยและใช้เบี้ยประกันภัยอัตราเดียวกับบุคคลทุกคนใน กลุ่มนั้น ๆ การประกันภัยประเภทนี้อัตราดอกเบี้ยประกันภัยจะถูกกว่าการประกันภัยประเภท อื่น ๆ เหมาะสำหรับพนักงาน ในบริษัทต่าง ๆ


ประกันชีวิตแบ่งออกได้เป็น 4 แบบ


แบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) คือการประกันชีวิตที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้ รับประโยชน์ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี สัญญาประกันชีวิตแบบนี้มีลักษณะเป็นการให้ความคุ้มครองการเสี่ยงภัยอันเกิด จากการเสียชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีการสะสมทรัพย์รวมอยู่ด้วย จึงมีลักษณะเช่นเดียวกับสัญญาประกันอัคคีภัย เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วจึงไม่มีมูลค่าใด ๆ คืนให้แก่ผู้เอาประกัน
แบบตลอดชีพ (Whole life Insurance) คือการประกันชีวิตที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้ รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตโดยไม่คำนึงว่าจะเสียชีวิตเมื่อใด แต่ถ้าหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 99 ปี บริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย
แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) คือการประกันชีวิตที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้ รับประโยชน์ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัยถ้าหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ในวัน ที่สัญญาครบกำหนด
แบบเงินได้ประจำ (Annuities Insurance) คือการประกันชีวิตที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเป็นประจำให้แก่ผู้ เอาประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ในวันที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยทั่วไปเงินได้ประจำจะจ่ายเป็นปีทุก ๆ ปี จนครบตามเงื่อนไขของสัญญา สัญญาประกันชีวิตแบบนี้เหมาะกับผู้เอาประกันภัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสะสม ทรัพย์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายหลังจากที่เกษียณอายุการทำงานแล้ว


ผู้เอาประกันภัยจะเวนคืนเงินตามกรมธรรม์ประกันภัย ไปให้บุคคลอื่นได้หรือไม่


สัญญาประกันชีวิตบางสัญญาจะมีมูลค่าเงินสดฝากสะสมไว้กับบริษัทประกันชีวิต โดยสังเหตุได้จากตารางท้ายกรมธรรม์ประกันภัย เงินจำนวนนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับเงินฝากธนาคาร ผู้เอาประกันภัยจึงสามารถเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อรับเงินตามมูลค่าที่ มีอยู่ในกรมธรรม์ได้เช่นเดียวกับการถอนเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจึงสามารถโอนประโยชน์ตามสัญญาประกันชีวิตนี้ไปให้ บุคคลอื่นได้


ผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นบุคคลอื่นได้


(1) ถ้ามีการส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ไปแล้ว
(2) ผู้รับประโยชน์ได้ทำหนังสือแจ้งบริษัทประกันภัยว่าตนจะเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันชีวิตนั้น
เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวข้างต้น ผู้เอาประกันภัยย่อมไม่สามารถโอนประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาประกันชีวิตไปยังบุคคลอื่นได้


ทำอย่างไรเมื่อตัวแทนประกันชีวิตมาเสนอขาย


เมื่อมีตัวแทนประกันชีวิตมาเสนอขายประกันชีวิต ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจในแบบประกันชีวิตที่เสนอขาย ผลประโยชน์ที่จะได้รับเงื่อนไข และข้อยกเว้นต่าง ๆ รวมถึงเบี้ยประกันภัยที่จะชำระก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิต


แบบประกันชีวิตที่เหมาะสม


ก่อนจะซื้อประกันชีวิตจะต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของการทำประกันชีวิต ระยะเวลาคุ้มครองที่ต้องการจำนวนเงินเอาประกันภัย และความสามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้โดยไม่เดือดร้อนและตลอดระยะเวลาที่กำหนด ขอยกตัวอย่างดังตารางต่อไปนี้





















ความต้องการ

แบบประกันที่เหมาะสม


ความคุ้มครองระยะสั้น เช่น 5 , 10 ปี คุ้มครองเฉพาะการเสียชีวิตเท่านั้น ไม่มีเงินคืน เบี้ยประกันภัยจึงมีราคาถูก

แบบชั่วระยะเวลา


ความคุ้มครองระยะสั้น เช่น 7 , 10 , 15 , 20 ปี คุ้มครองการเสียชีวิต พร้อมกับการสะสมทรัพย์ มีเงินคืน

แบบสะสมทรัพย์


ความคุ้มครองแบบถาวร หรือตลอดชีพ อัตราเบี้ยประกันภัยไม่สูงนัก คุ้มครองการเสียชีวิตไม่มีเงินคืน

แบบตลอดชีพ




ใบคำขอเอาประกันภัยมีความสำคัญอย่างไร


เมื่อตัดสินใจทำประกันชีวิต ท่านต้องกรอกรายละเอียดในใบคำขอเอาประกันภัยตามความเป็นจริงทุกประการด้วยตน เองโดยเฉพาะประวัติการมีโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และประวัติการสมัครทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันภัยอื่น ๆ หรือหากผู้อื่นกรอกให้ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนลงลายมือชื่อ เพราะหากบริษัทสืบทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้บอกความจริง บริษัทประกันชีวิตก็สามารถนำมาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธการจ่ายเงินประกัน ชีวิตได้


การสมัครทำประกันชีวิตนั้นจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?


(1) ใบคำขอเอาประกันภัยที่กรอกถูกต้องและครบถ้วน
(2) เบี้ยประกันภัยงวดแรก
(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอเอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์
(4) ในบางครั้งบริษัทประกันชีวิตอาจะขอดูผลตรวจสุขภาพและเอกสารอื่น ๆ


ที่มา..สมาคมประกันชีวิต


.Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies